Home ข่าวการเมือง “ธรรมนัส” ไม่ติดใจชาดา พูด “ตั้งโจรปราบโจร” แจงเป็นประธานค้ามนุษย์ ไม่ใช่ปราบสแกมเมอร์

“ธรรมนัส” ไม่ติดใจชาดา พูด “ตั้งโจรปราบโจร” แจงเป็นประธานค้ามนุษย์ ไม่ใช่ปราบสแกมเมอร์

141
0
ภาพประกอบข่าว:
เครดิตภาพ: www.thairath.co.th

ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แถลงชี้แจงกรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวในทำนอง “ตั้งโจรปราบโจร” โดยยืนยันว่าตนเองไม่ติดใจกับคำพูดดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากเข้าใจในบริบทของสิ่งที่นายชาดาต้องการจะสื่อสาร นายธรรมนัสได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า บทบาทที่ตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีคือการเป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ไม่ใช่การเป็นประธานคณะกรรมการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือสแกมเมอร์อย่างที่อาจมีการเข้าใจผิด ความชัดเจนในบทบาทหน้าที่นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ และการแก้ปัญหาอาชญากรรมเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการตอบโต้ข้อสงสัยและคำวิจารณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง

ประเด็นสำคัญจาก: “ธรรมนัส” ไม่ติดใจชาดา พูด “ตั้งโจรปราบโจร” แจงเป็นประธานค้ามนุษย์ ไม่ใช่ปราบสแกมเมอร์

ประเด็นหลักที่นายธรรมนัส พรหมเผ่า ต้องการชี้แจงคือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของตนในฐานะประธานคณะกรรมการฯ โดยเน้นย้ำว่าภารกิจหลักคือการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่มีความซับซ้อนและส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสังคม การค้ามนุษย์ครอบคลุมหลายรูปแบบ ทั้งการบังคับใช้แรงงาน การค้าประเวณี การขอทาน การใช้แรงงานเด็ก และการนำอวัยวะไปขาย ซึ่งปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง

การแยกแยะบทบาทหน้าที่ระหว่างการปราบปรามการค้ามนุษย์กับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือสแกมเมอร์เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากทั้งสองประเด็นแม้จะเป็นอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงและแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ แต่ก็มีลักษณะ รูปแบบ และกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน การแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์มักเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี การหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ และการสวมรอย ซึ่งต้องใช้มาตรการทางกฎหมายและเทคนิคเฉพาะทางในการสืบสวนจับกุมและป้องกัน ขณะที่การค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมที่มุ่งเน้นการใช้กำลัง การข่มขู่ หรือการหลอกลวงเพื่อควบคุมบุคคลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งมีผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง การทำความเข้าใจความแตกต่างนี้ ช่วยให้การดำเนินการของแต่ละคณะกรรมการฯ เป็นไปอย่างมีเป้าหมายและมีประสิทธิภาพสูงสุด

รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น

นายธรรมนัส ได้ขยายความถึงการตอบสนองต่อนายชาดา ไทยเศรษฐ์ โดยกล่าวว่าไม่ได้ติดใจหรือรู้สึกขุ่นเคืองกับคำพูดที่ว่า “ตั้งโจรปราบโจร” เลยแม้แต่น้อย เพราะเข้าใจว่านายชาดาอาจจะพูดจากประเด็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามอาชญากรรมโดยรวม ซึ่งในอดีตอาจมีภาพจำบางอย่างที่ถูกเชื่อมโยงกับการปราบปรามอาชญากรรมประเภทอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การชี้แจงครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำให้สาธารณชนได้เห็นถึงความแตกต่างของภารกิจที่ได้รับมอบหมายจริง รวมถึงยืนยันความตั้งใจในการทำงานตามกรอบที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่และโปร่งใส เพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นวาระสำคัญของประเทศและได้รับการจับตามองจากนานาชาติ

นอกจากนี้ นายธรรมนัสยังได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยคณะกรรมการดังกล่าวมีเป้าหมายในการป้องกัน ปราบปราม และคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์อย่างครบวงจร ซึ่งรวมถึงการบูรณาการความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นขบวนการค้ามนุษย์ทั้งในประเทศและที่เป็นเครือข่ายข้ามชาติ การปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทที่ถูกต้องและชัดเจนนี้ จะเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและการดำเนินงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และยุติปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย

สรุปข่าวทั้งหมด

การชี้แจงของนายธรรมนัส พรหมเผ่า ในครั้งนี้เป็นการย้ำเตือนถึงความชัดเจนในบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งตนเองดำรงตำแหน่งประธาน ไม่ใช่คณะกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างที่บางส่วนอาจเข้าใจผิด การที่นายธรรมนัสไม่ติดใจกับคำพูดของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในธรรมชาติของการสื่อสารทางการเมือง และความต้องการที่จะมุ่งเน้นไปที่การทำงานตามภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมาย การแยกแยะประเภทอาชญากรรมและการกำหนดขอบเขตหน้าที่อย่างชัดเจน จะช่วยให้การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมแต่ละประเภทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดมากขึ้น การทำงานเพื่อยุติปัญหาการค้ามนุษย์ยังคงเป็นวาระสำคัญที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาธารณชนยังคงต้องจับตาดูผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานของคณะกรรมการชุดนี้ต่อไป.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here