“ธรรมนัส” ไม่ติดใจชาดา พูด “ตั้งโจรปราบโจร” แจงเป็นประธานค้ามนุษย์ ไม่ใช่ปราบสแกมเมอร์

“ธรรมนัส” พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุว่า การ “ตั้งโจรปราบโจร” เป็นยุทธวิธีหนึ่งสำหรับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเน้นย้ำว่าตนเองไม่ติดใจกับคำพูดดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูงและมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาต่างๆ มาหลายรูปแบบ การที่นายชาดาออกมาพูดเช่นนี้ อาจเป็นเพราะต้องการสื่อถึงบริบทบางอย่างในการทำงานที่ต้องอาศัยกลยุทธ์ที่แตกต่างจากปกติ อย่างไรก็ตาม ร.อ. ธรรมนัส ได้ชี้แจงสถานะของตนเองอย่างชัดเจนว่า ตนเป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ไม่ใช่เรื่องของการปราบปรามสแกมเมอร์โดยตรง ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการรับรู้ของสาธารณชน

ประเด็นสำคัญจาก: “ธรรมนัส” ไม่ติดใจชาดา พูด “ตั้งโจรปราบโจร” แจงเป็นประธานค้ามนุษย์ ไม่ใช่ปราบสแกมเมอร์

ประเด็นที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ กล่าวถึงการ “ตั้งโจรปราบโจร” ได้สร้างความสนใจและถกเถียงในวงกว้าง แต่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ยืนยันว่า ตนไม่ติดใจในคำพูดดังกล่าว เนื่องจากเข้าใจว่าแต่ละคนมีวิธีการคิดและมุมมองในการแก้ไขปัญหาที่อาจแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในการทำงานที่ซับซ้อนและต้องเผชิญกับอุปสรรคหลากหลายรูปแบบในแวดวงอาชญากรรม คำว่า “ตั้งโจรปราบโจร” อาจเป็นเพียงการเปรียบเปรยถึงการใช้บุคคลที่มีความเข้าใจในกลโกงหรือวิธีการของอาชญากรมาช่วยในการต่อสู้กับอาชญากรรมนั้นๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน

ร.อ. ธรรมนัส ได้ย้ำจุดยืนและบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างชัดเจน โดยระบุว่าเขาได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นภารกิจที่มีความท้าทายและเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อนและมีขนาดใหญ่ การทำงานในด้านนี้จึงไม่ใช่แค่การปราบปรามสแกมเมอร์เพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมถึงการขยายผลไปสู่การค้ามนุษย์ ซึ่งมักจะเชื่อมโยงกับอาชญากรรมออนไลน์ในมิติต่างๆ การทำความเข้าใจขอบเขตภารกิจนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สังคมเข้าใจถึงเจตนารมณ์และเป้าหมายที่แท้จริงของการทำงานในคณะกรรมการชุดนี้ และไม่ตีความไปในทางที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น

การชี้แจงของ ร.อ. ธรรมนัส ในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นจากการตีความคำพูดของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ว่า บทบาทของเขานั้นมุ่งเน้นไปที่การปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรมออนไลน์ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ร.อ. ธรรมนัส ได้เน้นย้ำว่า ภารกิจหลักของคณะกรรมการที่เขาเป็นประธานคือการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าและมีผลกระทบรุนแรงต่อสังคมและมนุษยชาติ การค้ามนุษย์มักจะมีการใช้เทคโนโลยีและช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ดังนั้นการแก้ไขปัญหาจึงต้องครอบคลุมและใช้มาตรการที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถเข้าถึงและทำลายเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การที่ ร.อ. ธรรมนัส ชี้แจงว่าตนเองเป็นคนมีความมั่นใจในตนเองสูง และไม่ติดใจในคำพูดของนายชาดา ก็แสดงให้เห็นถึงทัศนคติในการทำงานที่เปิดกว้างและพร้อมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง การบริหารงานในระดับชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและอาชญากรรม จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย รวมถึงการพิจารณากลยุทธ์และวิธีการที่อาจดูไม่ปกติในสายตาคนทั่วไป แต่สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีได้ การทำความเข้าใจในบริบทของการทำงานและขอบเขตหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สาธารณชนและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องและร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

สรุปข่าวทั้งหมด

การชี้แจงของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เกี่ยวกับคำพูดของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ เรื่อง “ตั้งโจรปราบโจร” นั้น เป็นการเน้นย้ำถึงความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเองและขอบเขตภารกิจในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ร.อ. ธรรมนัส ยืนยันว่าตนไม่ติดใจในคำพูดดังกล่าว เพราะเป็นคนที่มีความมั่นใจและเข้าใจว่าการแก้ไขปัญหาสาธารณะต้องอาศัยหลากหลายแนวทาง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ ภารกิจหลักของเขาคือการมุ่งเน้นไปที่การค้ามนุษย์ ซึ่งเชื่อมโยงกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างแยกไม่ออก การชี้แจงครั้งนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่อให้สังคมมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบทบาทและเป้าหมายของคณะกรรมการ รวมถึงการทำงานที่ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจัง เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในวงกว้างต่อไป.