ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และในฐานะกรรมการบริหารพรรค เปิดเผยถึงการเริ่มต้นใช้สโลแกนรณรงค์หาเสียงใหม่ของพรรคก้าวไกล คือ “มีเราไม่มีเทา” ซึ่งเป็นการตอกย้ำแนวคิดและจุดยืนของพรรคที่มุ่งเน้นการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และการไม่ยอมรับกลุ่มอิทธิพลสีเทาทุกรูปแบบในสังคมไทย การประกาศสโลแกนดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่การเมืองไทยกำลังเข้มข้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อสื่อสารไปยังประชาชนถึงความตั้งใจจริงของพรรคในการสร้างความโปร่งใสและยุติธรรมให้กับประเทศชาติ ทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะกวาดล้างสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพื่อสร้างสังคมที่ขาวสะอาดอย่างแท้จริง สะท้อนวิสัยทัศน์ของพรรคที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม.
ประเด็นสำคัญจาก: “ศิริกัญญา” เผย เริ่มปล่อยสโลแกนหาเสียง “มีเราไม่มีเทา”
สโลแกน “มีเราไม่มีเทา” ที่พรรคก้าวไกลนำเสนอออกมานั้น มีความหมายที่ลึกซึ้งและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดทิศทางของการเมืองไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการต่อต้านการทุจริตและการปราบปรามกลุ่มอิทธิพล สโลแกนนี้ไม่ได้เป็นเพียงคำขวัญ แต่เป็นเสมือนคำมั่นสัญญาที่พรรคก้าวไกลต้องการสื่อสารไปยังประชาชนว่า หากพรรคได้รับโอกาสในการบริหารประเทศ จะไม่มีพื้นที่ให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ประพฤติมิชอบ หรือผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กลุ่มบุคคลที่สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองจะไม่ได้รับการปกป้องหรือให้การสนับสนุนใดๆ ทั้งสิ้น การเน้นย้ำถึงคำว่า “ไม่มีเทา” เป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการสร้างความโปร่งใสและยุติธรรมอย่างสูงสุด ตั้งแต่การเมืองระดับชาติไปจนถึงระดับท้องถิ่น.
นอกจากนี้ สโลแกน “มีเราไม่มีเทา” ยังสะท้อนถึงการรับรู้ของพรรคก้าวไกลต่อวิกฤตความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อระบบการเมืองและข้าราชการในปัจจุบัน ปัญหาคอร์รัปชันและอิทธิพลมืดได้กัดกร่อนความศรัทธาของประชาชนมาอย่างยาวนาน ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ไว้วางใจในกลไกของรัฐ การที่พรรคก้าวไกลหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาเป็นแกนหลักในการหาเสียง จึงเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม พรรคเชื่อมั่นว่าการกำจัดกลุ่มอิทธิพลสีเทาออกไป จะเป็นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาประเทศในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ที่จะนำไปสู่การเป็นประเทศที่มีธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง.
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
การเปิดตัวสโลแกน “มีเราไม่มีเทา” ของพรรคก้าวไกลนั้น เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การหาเสียงที่ต้องการสร้างความแตกต่างและโดดเด่นจากพรรคการเมืองอื่น ๆ โดยเน้นไปที่การนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและชัดเจนในประเด็นการเมืองที่ร้อนแรงที่สุดในสังคม พรรคพยายามที่จะฉายภาพลักษณ์ของการเป็นพรรคการเมืองที่กล้าหาญ เด็ดขาด และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจที่ไม่เป็นธรรม โดยมุ่งเป้าไปที่การล้มล้างระบบอุปถัมภ์และเครือข่ายผลประโยชน์ที่ฝังรากลึกในสังคมไทย ยิ่งไปกว่านั้น สโลแกนดังกล่าวยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความพร้อมของพรรคก้าวไกลที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการต่อสู้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทดสอบความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งของพรรคในการทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน.
การนำเสนอสโลแกนนี้ยังมีความเชื่อมโยงกับนโยบายและแนวคิดอื่น ๆ ของพรรคที่สนับสนุนการปฏิรูปเชิงโครงสร้างและการสร้างประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง นโยบายหลักของพรรคหลายข้อ เช่น การปฏิรูปกองทัพ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการทุจริต ล้วนแล้วแต่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการกำจัด “ความเทา” ออกจากการเมืองและสังคมไทย การที่ศิริกัญญา ตันสกุล ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในพรรคออกมาแถลงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความจริงจังและให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดของพรรคต่อประเด็นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เหลือไม่มากนักก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจึงต้องเร่งสร้างการรับรู้และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผ่านการสื่อสารที่ชัดเจนและตรงประเด็น.
สรุปข่าวทั้งหมด
การประกาศสโลแกน “มีเราไม่มีเทา” ของพรรคก้าวไกล โดยศิริกัญญา ตันสกุล เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงจุดยืนของพรรคในการต่อต้านการทุจริตและการไม่ยอมรับกลุ่มอิทธิพลสีเทาในสังคมไทย การใช้สโลแกนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดคะแนนนิยมจากประชาชนที่เบื่อหน่ายกับปัญหาคอร์รัปชันและความไม่โปร่งใสในระบบการเมืองไทย สโลแกนนี้ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของพรรคก้าวไกลที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างสังคมที่มีธรรมาภิบาลและมีความยุติธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน การเลือกใช้คำที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้คาดว่าจะช่วยให้ประชาชนจดจำและเข้าใจถึงแก่นแท้ของอุดมการณ์พรรคได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างฐานเสียงและผลักดันให้พรรคก้าวไกลมีความเข้มแข็งมากขึ้นในเวทีการเมือง.
