เตรียมจ่ายเพิ่ม สำหรับผู้บริโภคที่นิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ เนื่องจากกรมศุลกากรมีแผนที่จะเก็บภาษีสินค้าออนไลน์นำเข้าตั้งแต่บาทแรก โดยไม่มีการยกเว้นวงเงินขั้นต่ำ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการในประเทศกับสินค้านำเข้า รวมถึงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐ และแก้ไขปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษีที่เกิดขึ้นจากการนำเข้าสินค้ามูลค่าน้อยผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยเชื่อว่ามาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ขายและผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ในระยะยาว ทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคของผู้ใช้งานในประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประเด็นสำคัญจาก: เตรียมจ่ายเพิ่ม ! กรมศุล จ่อรีดภาษีสินค้าออนไลน์นำเข้า ตั้งแต่บาทแรก เริ่ม 1 ม.ค 69
ประเด็นสำคัญจากการที่กรมศุลกากรเตรียมเก็บภาษีสินค้าออนไลน์นำเข้าตั้งแต่บาทแรก มีนัยยะสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการบริโภคในประเทศไทยอย่างมาก นับตั้งแต่ปัจจุบัน การนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาทได้รับการยกเว้นอากรนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งช่องว่างนี้ถูกใช้โดยผู้ประกอบการและผู้บริโภคบางรายในการนำเข้าสินค้ามูลค่าสูงโดยการแบ่งแยกพัสดุเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ส่งผลให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ และเกิดความไม่เท่าเทียมในการแข่งขันทางการค้ากับผู้ประกอบการในประเทศที่ต้องเสียภาษีอย่างถูกต้อง การยกเลิกการยกเว้นภาษีขั้นต่ำ 1,500 บาทนี้ จึงเป็นการตอบสนองต่อปัญหาดังกล่าว เพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดช่องโหว่ทางกฎหมาย
มาตรการนี้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากลที่หลายประเทศทั่วโลกได้นำมาใช้ก่อนหน้านี้ เพื่อควบคุมการไหลเข้าของสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ และปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้ต้นทุนของสินค้าออนไลน์ที่สั่งจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแพลตฟอร์มต่างชาติขนาดใหญ่และผู้ค้ารายย่อยที่อาศัยช่องทางนี้เพื่อขายสินค้า จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ผู้บริโภคจะต้องพิจารณาราคาโดยรวมที่รวมภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มตั้งแต่บาทแรก ซึ่งอาจทำให้สินค้าบางชนิดที่เคยมีราคาดึงดูดใจลดความน่าสนใจลง และอาจหันกลับไปซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการในประเทศมากขึ้น รวมถึงสินค้าที่ผลิตในประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศและสนับสนุนผู้ผลิตไทยไปในตัว
นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังเตรียมความพร้อมด้านระบบการจัดเก็บภาษี เพื่อรองรับปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากการนำเข้าสินค้าออนไลน์จำนวนมาก ระบบจะต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ และสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคในการคำนวณและชำระภาษีได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย การวางกรอบเวลาในการเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2569 จึงเป็นช่วงเวลาที่กรมศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะใช้ในการปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติ รวมถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้พร้อมเพรียง เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
การดำเนินการของกรมศุลกากรในการรีดภาษีสินค้านำเข้าออนไลน์ตั้งแต่บาทแรก เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายภาครัฐที่มุ่งเน้นการปฏิรูปโครงสร้างภาษีและการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่การค้าออนไลน์เข้ามามีบทบาทอย่างมหาศาล การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรงที่ต้องแบกรับภาระภาษีเพิ่มขึ้น แต่ยังส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของอีคอมเมิร์ซ รวมถึงผู้ขายที่เคยอาศัยช่องทางการนำเข้าปลอดภาษี การปรับเปลี่ยนนี้จะช่วยสร้างสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกันมากขึ้นระหว่างผู้ประกอบการในประเทศที่เสียภาษีครบถ้วน กับผู้ประกอบการต่างชาติที่อาจจะเคยได้เปรียบจากช่องโหว่ทางกฎหมายเดิม ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมในประเทศในระยะยาว
สำหรับในทางปฏิบัติ กรมศุลกากรจะต้องออกระเบียบและแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่ออธิบายวิธีการคำนวณและชำระภาษีสำหรับสินค้าออนไลน์ทุกชนิด ไม่ว่าจะสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มใดก็ตาม รวมถึงสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบการถึงผลกระทบและขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนวันที่ 1 มกราคม 2569 จะมาถึง การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงจะเป็นหัวใจสำคัญในการลดความสับสนและข้อร้องเรียนที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาระบบ IT ที่รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ ผู้ให้บริการขนส่ง และกรมศุลกากร จะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดเก็บภาษีและลดขั้นตอนให้กับผู้บริโภค โดยอาจมีการเสนอทางเลือกให้แพลตฟอร์มผู้ขายต่างชาติเข้ามาจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการที่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในประเทศไทย เพื่อความสะดวกในการดำเนินการ และให้ผู้บริโภคเห็นราคาสุดท้ายที่รวมภาษีแล้วตั้งแต่แรก
สรุปข่าวทั้งหมด
สรุปได้ว่า กรมศุลกากรเตรียมบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีสินค้าออนไลน์นำเข้าตั้งแต่บาทแรก โดยไม่มีการยกเว้นวงเงินขั้นต่ำ 1,500 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้า เพิ่มรายได้ให้กับรัฐ และสกัดกั้นการหลีกเลี่ยงภาษีที่เกิดขึ้นจากการนำเข้าสินค้ามูลค่าน้อย ซึ่งมาตรการนี้จะส่งผลให้สินค้าที่สั่งจากต่างประเทศมีต้นทุนสูงขึ้น ผู้บริโภคต้องเตรียมตัวแบกรับภาระภาษีเพิ่มขึ้น และผู้ประกอบการในประเทศจะได้รับประโยชน์จากสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่เท่าเทียมมากขึ้น กรมศุลกากรกำลังเร่งพัฒนาระบบและกฎระเบียบเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวของประเทศให้เข้ากับบริบทของการค้าโลกยุคดิจิทัลและสร้างเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว
