อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตว่าทหารกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานของศูนย์ประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ (Thai-Myanmar-Cambodia Border Area Coordination Center: TMAC) หรือ TMAC ในปมปราบปรามยาเสพติดและคดีความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยนายอนุทินได้ขอให้สื่อมวลชนอย่าเพิ่งใช้คำว่า “ขัดขวาง” ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดหรือทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตึงเครียดได้ นายอนุทินได้ชี้แจงว่าปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากความไม่เข้าใจกันในรายละเอียดของข้อตกลงและกระบวนการทำงาน รวมถึงความแตกต่างในการรับรู้ข่าวสารและความต้องการข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ในความร่วมมือระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับประเด็นข้ามชาติที่ซับซ้อนเช่นนี้
ประเด็นสำคัญจาก: “อนุทิน” ขออย่าเพิ่งใช้คำว่า “ขัดขวาง” ปมทหารกัมพูชาไม่ร่วมมือ TMAC
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็นความร่วมมือกับกัมพูชาในการทำงานของ TMAC หลังจากที่สื่อมวลชนได้มีการตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ราบรื่นในการปฏิบัติหน้าที่ นายอนุทินเน้นย้ำว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงและหลักการที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ โดยส่วนตัวไม่ได้รับรายงานหรือข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเกิดความขัดขวางการทำงาน หรือมีปัญหาด้านความร่วมมือจากฝ่ายกัมพูชา สื่อที่รายงานข่าวอาจมีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือตีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ท่านรองนายกรัฐมนตรีระบุเพิ่มเติมว่า ปัญหาความไม่เข้าใจกัน หรือความล่าช้าในบางขั้นตอน อาจเกิดขึ้นได้ในกระบวนการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานและประเทศที่มีความแตกต่างด้านระบบกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติ และวัฒนธรรมการทำงาน แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะขัดขวางการทำงานจากฝ่ายกัมพูชาแน่นอน
นายอนุทินชี้แจงว่า การทำงานของ TMAC โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่เกี่ยวกับยาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนสูงและต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหลายหน่วยงานของทั้งสองประเทศ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมเหล่านี้มักมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้อง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การตอบสนองหรือการดำเนินงานบางอย่างไม่เป็นไปตามความคาดหวังของบางฝ่าย นายอนุทินยืนยันว่ารัฐบาลไทยและกัมพูชายังคงมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน โดยเชื่อมั่นว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบจะสามารถแก้ไขความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นได้ และเสริมสร้างความร่วมมือให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
จากประเด็นการตั้งคำถามเรื่องความไม่ร่วมมือของทหารกัมพูชา นายอนุทินได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงบริบทของการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศว่า การสื่อสารและการประสานงานในประเด็นที่มีความอ่อนไหวสูง เช่น การปราบปรามยาเสพติดและคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ถือเป็นเรื่องท้าทายที่ต้องอาศัยกลไกและช่องทางที่เป็นทางการ มีประสิทธิภาพ และต้องมีการเคารพในอธิปไตยและขั้นตอนปฏิบัติของแต่ละประเทศเป็นสำคัญ ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มีสาเหตุมาจากเจตนาในการขัดขวาง แต่เป็นเรื่องของความซับซ้อนในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล การอนุมัติคำขอ หรือความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายภายในของแต่ละฝ่าย ซึ่งอาจใช้เวลาหรือมีข้อจำกัดบางประการที่ทำให้การดำเนินการไม่รวดเร็วเท่าที่ควรจะเป็น หรือไม่ตรงตามข้อมูลที่บางฝ่ายได้รับ นายอนุทินย้ำว่า ทั้งสองประเทศต่างมีเป้าหมายร่วมกันในการจัดการกับปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม แต่กระบวนการอาจแตกต่างกันไป
โดยสรุป นายอนุทินขอให้ทุกฝ่ายให้เวลาและทำความเข้าใจในบริบทการทำงานระหว่างประเทศ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้คำพูดที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือบั่นทอนความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับกัมพูชา การสร้างความเข้าใจผิดหรือการตีความที่อาจเกินเลยจากความเป็นจริง อาจส่งผลกระทบต่อความร่วมมือในอนาคต ซึ่งจะกระทบต่อประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาชายแดนที่ทั้งสองประเทศพยายามดำเนินการอยู่ รัฐบาลไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับกัมพูชาอย่างเต็มที่ผ่านช่องทางที่เหมาะสม และเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะยังคงแน่นแฟ้น และสามารถร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
สรุปข่าวทั้งหมด
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ออกมาขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชนให้หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “ขัดขวาง” ในการกล่าวถึงกรณีความร่วมมือระหว่างทหารกัมพูชาและศูนย์ประสานงานชายแดน (TMAC) ในประเด็นการปราบปรามยาเสพติดและคดีความมั่นคง โดยชี้แจงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจมาจากความไม่เข้าใจในกระบวนการทำงานที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนระหว่างประเทศมากกว่าเจตนาในการขัดขวาง การทำงานร่วมกันในประเด็นข้ามชาติเช่นนี้ย่อมต้องใช้เวลาในการประสานงานและการตรวจสอบข้อมูล นายอนุทินยืนยันว่ารัฐบาลไทยและกัมพูชายังคงมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกัน และเชื่อมั่นว่าความร่วมมือจะยังคงดำเนินต่อไปได้ด้วยดี โดยจะมีการหารือและปรับปรุงกระบวนการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคต
