มาลี – บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินกลยุทธ์การปรับเปลี่ยนธุรกิจครั้งสำคัญ โดยมุ่งเน้นการขยายส่วนแบ่งตลาดในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศให้สูงถึง 55% ของรายได้รวม การปรับเกมรุกในครั้งนี้ได้จัดวางเป้าหมายหลักไว้ที่ตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงอย่างจีน เกาหลีใต้ และตะวันออกกลาง โดยมีแผนการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายที่ตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และลดการพึ่งพิงตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียว พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาลีในเวทีโลก
ประเด็นสำคัญจาก: มาลี” ปรับเกมรุก ดันรายได้ต่างประเทศแตะ 55% ชูตลาดจีน–เกาหลี-ตะวันออกกลาง
การปรับเกมรุกของมาลี กรุ๊ป เป็นผลมาจากวิสัยทัศน์ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ในระดับสากล โดยมีเป้าหมายเชิงปริมาณที่ชัดเจนในการผลักดันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ความพยายามนี้ไม่เพียงแต่เป็นการขยายฐานลูกค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและวัฒนธรรมการบริโภคของแต่ละประเทศ การเลือกตลาดจีน เกาหลีใต้ และตะวันออกกลางเป็นเป้าหมายหลักนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากการวิเคราะห์ศักยภาพการเติบโตของตลาด กำลังซื้อของผู้บริโภค และแนวโน้มความนิยมในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและเครื่องดื่มจากธรรมชาติ
ในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจีนและเกาหลีใต้ มาลีเล็งเห็นถึงตลาดขนาดใหญ่ที่มีกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เปิดรับสินค้าจากต่างประเทศและให้ความสำคัญกับคุณภาพและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ส่วนในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับมาลีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของภูมิภาค การดำเนินการตามกลยุทธ์นี้จึงเกี่ยวข้องกับการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาดเป้าหมาย เพื่อให้มาลีสามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
เพื่อบรรลุเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ มาลีได้วางแผนการตลาดที่ครอบคลุมและปรับให้เข้ากับแต่ละภูมิภาค ตัวอย่างเช่น ในตลาดจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงและผู้บริโภคมีความคาดหวังสูง บริษัทอาจเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น น้ำผลไม้สกัดเย็น หรือเครื่องดื่มที่ผสมผสานส่วนประกอบจากธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยอาจมีการปรับรสชาติหรือบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความชื่นชอบของคนในท้องถิ่น นอกจากนี้ การใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงแพลตฟอร์อีคอมเมิร์ซ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
ส่วนในตลาดตะวันออกกลาง กลยุทธ์อาจแตกต่างออกไปเล็กน้อย โดยอาจมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนและเป็นที่นิยมในภูมิภาค เช่น น้ำผลไม้เข้มข้น หรือเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นและบำรุงสุขภาพ ซึ่งอาจมีการเน้นย้ำถึงความเป็นฮาลาลของผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้จัดจำหน่ายในท้องถิ่นและการลงทุนในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความรู้จักและยอมรับในแบรนด์มาลี นอกจากนี้ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการขายในต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างการรับรู้และเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับมาลี กรุ๊ป
สรุปข่าวทั้งหมด
การปรับเกมรุกของมาลี กรุ๊ป ในครั้งนี้ นับเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทในระยะยาว ด้วยการตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 55% โดยเน้นตลาดจีน เกาหลีใต้ และตะวันออกกลาง บริษัทแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขยายขีดความสามารถในการแข่งขันและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงตลาดในประเทศ การดำเนินงานนี้จะเกี่ยวข้องกับการปรับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ การตลาด และการจัดจำหน่ายให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละภูมิภาค การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของมาลีในการเป็นผู้นำด้านอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกอย่างยั่งยืนในอนาคต
