
“สคส.” ได้ทำการสั่งระงับและลบข้อมูลสแกนม่านตาจากการแลกเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีที่ได้รับการเก็บรวบรวมจากกลุ่มประชาชนจำนวน 1.2 ล้านราย เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถูกพิจารณาว่าขัดต่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPA ซึ่งเป็นมาตรการที่ออกมาเพื่อปกป้องสิทธิและความเป็นส่วนตัวของบุคคล การใช้งานข้อมูลสแกนม่านตาในกรณีนี้อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความไว้วางใจของประชาชนที่เกี่ยวข้อง
ประเด็นสำคัญจาก: “สคส.” สั่งระงับ – ลบข้อมูลสแกนม่านตาแลกเหรียญคริปโตฯ 1.2 ล้านราย ชี้ไม่ถูกหลัก PDPA
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ “สคส.” ได้ดำเนินการระงับการบันทึกข้อมูลสแกนม่านตาของกลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการแลกเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี การเก็บข้อมูลสแกนม่านตาในครั้งนี้ได้รับความสนใจมากเพราะเกี่ยวข้องกับจำนวนประชาชนถึง 1.2 ล้านคน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีการรายงานว่าขั้นตอนนี้ไม่ได้ประกาศให้ประชาชนทราบในเบื้องต้นและอาจทำผิดหลัก PDPA ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีจุดมุ่งหมายปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ถูกละเมิดหรือถูกใช้งานในทางที่ไม่เหมาะสม
กฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act) ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลในยุคดิจิทัล ซึ่งการใช้เทคโนโลยีในการสะสมข้อมูลส่วนบุคคลจำเป็นต้องมีความระมัดระวังและความโปร่งใส การประมวลผลข้อมูลสแกนม่านตาถือเป็นข้อมูลอ่อนไหวที่จำเป็นต้องได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ การที่ “สคส.” ตัดสินใจระงับการใช้งานข้อมูลนี้นั้นถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนที่ชัดเจนต่อการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในอนาคต
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
การดำเนินการโดย “สคส.” ในครั้งนี้เป็นผลมาจากการตรวจสอบที่เกิดขึ้นภายใต้ข้อกฎหมายและมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของข้อมูล หน่วยงานได้ชี้แจงว่า การละเมิดข้อบังคับมีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่การละเมิดความปลอดภัยของข้อมูลและอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบการจัดซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี
ในรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ได้กล่าวว่าการใช้ข้อมูลสแกนม่านตาเพื่อการทำธุรกรรมในโครงการคริปโตนั้นไม่เพียงพอต่อการได้รับความยินยอมอย่างชัดเจนจากผู้ใช้ นอกจากนี้ การที่บริษัทหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องไม่ได้มีนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลที่ละเอียดและครอบคลุมพอ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่อาจมีการใช้งานข้อมูลในทางที่ไม่เหมาะสมหรือไม่เป็นไปตามหลักกฎหมาย การดำเนินการที่เข้มงวดของ “สคส.” จึงเป็นการรับรองว่า ข้อมูลอ่อนไหวดังกล่าวจะไม่ถูกใช้ไปในทางที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง
สรุปข่าวทั้งหมด
กล่าวโดยสรุปแล้ว การที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ “สคส.” ได้ดำเนินการระงับและลบข้อมูลสแกนม่านตาที่ใช้ในการแลกเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีนั้นเป็นไปตามหลักการของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและความโปร่งใส เพื่อให้สังคมมั่นใจและสบายใจในการใช้งานบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล ในอนาคต การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจะยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่จะต้องติดตามและพัฒนาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่อไป









