ซีพีเอฟ (บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)) ได้นำเสนอและเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของนวัตกรรมในการขับเคลื่อนระบบฟาร์มเลี้ยงกุ้งให้มีความยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการรักษ์โลก การพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการเลี้ยงกุ้งที่มีประสิทธิภาพ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายบริษัทในการสร้างความมั่นคงทางอาหารควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม การมุ่งเน้นนวัตกรรมไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มผลผลิต แต่ยังรวมถึงการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของสัตว์ การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค การริเริ่มนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของซีพีเอฟในการเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมอาหารทะเลที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการผสานหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนและแนวคิดการเลี้ยงอย่างยั่งยืนเข้ากับการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์กุ้งที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อโลก
ประเด็นสำคัญจาก: ซีพีเอฟ ชูนวัตกรรมสร้างระบบฟาร์มเลี้ยงกุ้งยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภครักษ์โลก
ประเด็นสำคัญที่ซีพีเอฟได้เน้นย้ำคือการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเพื่อยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงกุ้งให้มีความยั่งยืนในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้สมัยใหม่มาใช้ในการบริหารจัดการฟาร์มกุ้ง โดยมีเป้าหมายหลักในการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด อีกทั้งยังเป็นการสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์กุ้งของซีพีเอฟ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การเลี้ยงกุ้งรูปแบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับปริมาณและคุณภาพของผลผลิต แต่ยังเน้นกระบวนการผลิตที่โปร่งใสและตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ซีพีเอฟได้พัฒนาระบบการเลี้ยงกุ้งแบบครบวงจร ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์กุ้งที่แข็งแรง การผลิตอาหารกุ้งที่ย่อยง่ายและเป็นมิตรต่อระบบนิเวศ การใช้เทคโนโลยีในการบำบัดน้ำเสียเพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Zero Waste Discharge) และการใช้พลังงานทางเลือกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การดำเนินการเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “CPF 2030 Sustainability in Action” ที่มุ่งมั่นจะสร้างความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (SDG 12) และการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล (SDG 14)
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
การพัฒนานวัตกรรมเพื่อระบบฟาร์มเลี้ยงกุ้งยั่งยืนของซีพีเอฟนั้นครอบคลุมหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีชีวภาพและการจัดการสิ่งแวดล้อม บริษัทได้ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กุ้งที่ทนทานต่อโรคและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้ยาปฏิชีวนะ และลดความเสี่ยงจากการระบาดของโรคในฟาร์ม นอกจากนี้ เทคนิคการเลี้ยงกุ้งแบบปิด (Closed System) หรือกึ่งปิด (Semi-Closed System) ได้ถูกนำมาใช้เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำและปัจจัยการผลิตอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งทำให้การใช้น้ำและพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดการปล่อยของเสียออกสู่ธรรมชาติ โครงสร้างฟาร์มแบบใหม่นี้ยังช่วยให้สามารถติดตามและประเมินผลการเลี้ยงได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถปรับปรุงกระบวนการได้ทันท่วงทีและได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชนรอบข้างฟาร์ม โดยมีการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้งที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น และสร้างเครือข่ายฟาร์มกุ้งที่มีมาตรฐานเดียวกัน การสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนนี้ เป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับประเทศ และยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร โดยการมอบโอกาสในการเข้าถึงตลาดที่มีความต้องการสินค้าคุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของซีพีเอฟในการสร้างคุณค่าร่วมกัน (Creating Shared Value) แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค เกษตรกร หรือชุมชนโดยรวม
สรุปข่าวทั้งหมด
ซีพีเอฟได้แสดงถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกุ้งไทยด้วยนวัตกรรม เพื่อสร้างระบบฟาร์มเลี้ยงกุ้งที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย การเลี้ยงโดยปราศจากยาปฏิชีวนะ การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซีพีเอฟเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์กุ้งยั่งยืน การดำเนินการเหล่านี้ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิต แต่ยังให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบขององค์กรต่อสังคมและโลกใบนี้ การพัฒนาระบบการเลี้ยงกุ้งนี้จะเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมกุ้งของไทย และเป็นแบบอย่างที่ดีในการพัฒนาธุรกิจที่ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม.
